ตารางเปรียบเทียบ ผ้าเบรก Brembo racing รุ่นต่างๆ HP2, FM1000, TS20
คุณสมบัติ |
Brembo HP2 |
Brembo FM1000 |
Brembo TS20 |
การใช้งานหลัก |
สปอร์ต / Trackday |
Motorsport / เซอร์กิต |
สปอร์ต / ถนนทั่วไป |
อุณหภูมิการทำงาน |
0°C – 600°C |
200°C – 800°C |
0°C – 500°C |
ค่าความเสียดทาน (µ) |
ปานกลาง – สูง |
สูงมาก |
ปานกลาง |
การตอบสนองต่อแป้นเบรก |
คม ชัดเจน |
ดุดัน ควบคุมง่าย |
สมูท สบายๆ |
ทนต่อความร้อนสูง (Fade Resistance) |
ดีมาก |
ดีเยี่ยม |
ปานกลาง |
การใช้งานบนถนน |
ใช้ได้ (แต่มีฝุ่น) |
ไม่เหมาะ |
เหมาะมาก |
เสียงรบกวน (Noise Level) |
ปานกลาง |
สูง |
ต่ำมาก |
การกินจานเบรก |
ปานกลาง |
สูง |
ต่ำ |
สรุปความแตกต่างของแต่ละรุ่น
Brembo HP2 (High Performance Street & Trackday)
✅ เหมาะกับรถที่ใช้งานทั้ง ถนนและ Trackday
✅ ให้แรงเบรกที่ดีขึ้นจาก OEM และรองรับอุณหภูมิสูงกว่า
✅ มีเสียงและฝุ่นมากกว่าผ้าเบรกถนนทั่วไปเล็กน้อย
✅ ใช้งานบนถนนได้ แต่ไม่เน้นความนุ่มนวลเท่าผ้าเบรกสตรีท
เหมาะกับ: คนที่อยากอัปเกรดจาก OEM และเล่น Trackday บ้าง
Brembo FM1000 (Motorsport / Racing)
✅ ออกแบบมาสำหรับ สนามแข่งโดยเฉพาะ
✅ ต้องให้ความร้อนก่อนเริ่มทำงานเต็มที่ (Preheat)
✅ ให้แรงเบรกสูงมาก แต่ กินจานเบรกหนัก
✅ มีเสียงดังและฝุ่นเยอะ ไม่เหมาะกับถนน
เหมาะกับ: รถแข่ง, รถที่ใช้งานในเซอร์กิต 100%
Brembo TS20 (Street Comfort & Performance)
✅ เหมาะสำหรับ ถนนทั่วไป + สปอร์ตไลฟ์สไตล์
✅ ให้ฟีลลิ่งคล้าย OEM แต่แรงเบรกดีกว่า
✅ เสียงเงียบ, ฝุ่นน้อย, กินจานเบรกต่ำ
✅ ไม่เหมาะกับการวิ่ง Trackday หรือใช้งานหนัก
เหมาะกับ: คนที่อยากอัปเกรดจาก OEM แต่ยังต้องการความสบาย
❓ เลือกตัวไหนดี?
- ขับถนน + Trackday (กลางๆ) → Brembo HP2
- สายเซอร์กิต / Trackday หนักๆ → Brembo FM1000
- ขับถนนเป็นหลัก + ฟีลลิ่งดีขึ้น → Brembo TS20
ถ้าต้องการแนะนำเพิ่มเติมว่าตัวไหนเหมาะกับรถของคุณ บอกรุ่นรถ หรือ ลักษณะการขับขี่ มาได้เลยครับ
จาก Radar Chart (กราฟแมงมุม) ในภาพที่คุณให้มา แสดงการเปรียบเทียบคุณสมบัติของผ้าเบรกแต่ละรุ่น โดยมีหัวข้อที่ใช้พิจารณาดังนี้:
หัวข้อในกราฟและความหมาย
- Temp Capacity (ความสามารถในการทนความร้อน)
- แสดงว่าผ้าเบรกสามารถทนความร้อนสูงสุดได้มากแค่ไหนก่อนที่จะเกิดอาการ Brake Fade (เบรกไม่อยู่เพราะอุณหภูมิสูงเกินไป)
- ผ้าเบรกที่ออกแบบมาสำหรับ Trackday หรือ Race มักจะมีค่าตรงนี้สูง
- Low Dust (ฝุ่นเบรกต่ำ)
- แสดงปริมาณฝุ่นที่เกิดจากผ้าเบรก ยิ่งสูงหมายถึง ฝุ่นน้อย
- ผ้าเบรกที่เหมาะกับการใช้งาน ถนน (Street Use) มักให้คะแนนสูงกว่า เพราะถูกออกแบบมาให้ลดฝุ่นสะสมบนล้อ
- Low Noise (เสียงรบกวนต่ำ)
- แสดงระดับเสียงที่เกิดจากการเบรก ยิ่งสูงหมายถึงเงียบ
- ผ้าเบรกที่ใช้บนถนน (TS20, HP2000) จะให้คะแนนตรงนี้สูงกว่า ส่วนผ้าเบรกเซอร์กิตมักมีเสียงดังขึ้นเพราะใช้สารประกอบที่แข็งกว่า
- Low Pad Wear (การสึกหรอของผ้าเบรกต่ำ)
- หมายถึงผ้าเบรกมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน ยิ่งสูงยิ่งทน
- ผ้าเบรกที่ออกแบบมาสำหรับ ถนน หรือ Trackday มักมีค่าตรงนี้สูงกว่า ผ้าเบรกเซอร์กิต (Racing Pads) ที่มักจะสึกเร็วกว่าเพราะต้องการแรงเสียดทานสูง
- Low Disc Wear (การสึกหรอของจานเบรกต่ำ)
- หมายถึงผ้าเบรกมีผลกระทบต่อจานเบรกมากแค่ไหน ยิ่งสูงยิ่งถนอมจานเบรก
- ผ้าเบรกสปอร์ตหรือ OEM ส่วนใหญ่จะให้คะแนนสูงในส่วนนี้ ส่วนผ้าเบรกแข่งอาจกินจานเบรกมากกว่า
- Modulation (การควบคุมแรงเบรก)
- หมายถึงความสามารถในการควบคุมแรงเบรก ไม่ใช่แค่หยุดแรง แต่ทำให้เบรกมีความต่อเนื่องและควบคุมง่าย
- ผ้าเบรกที่ดีควรมีค่า Modulation สูงเพื่อให้ผู้ขับสามารถกะระยะเบรกได้ง่าย
- Initial Response (การตอบสนองเบื้องต้น)
- หมายถึงผ้าเบรกสามารถตอบสนองได้เร็วแค่ไหนเมื่อลงน้ำหนักเบรก
- ผ้าเบรกที่ใช้สำหรับ Race และ Track มักให้การตอบสนองที่ไวกว่า ในขณะที่ผ้าเบรกถนนอาจถูกออกแบบให้มีความนุ่มนวลมากกว่า
การอ่านกราฟ
- Brembo HP2000 (สีแดง) → ให้สมดุลระหว่าง ถนนและ Trackday
- Brembo FM1000 (สีเทาเข้ม) → ผ้าเบรกสำหรับสนามแข่ง มี Temp Capacity สูง แต่กินจานเบรกเยอะ
- Brembo TS20 (สีฟ้า) → ผ้าเบรกที่เหมาะสำหรับ ถนน ให้เสียงเงียบและฝุ่นต่ำ
หากคุณต้องการเลือกผ้าเบรกที่เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถบอกลักษณะการขับขี่และรุ่นรถได้ครับ