HONDA HR-V E:HEV

HONDA HR-V E:HEV

New Honda HR-V e:HEV จะเลือกซื้อรุ่นไหนดีนะ?

HR-V นับเป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของ Honda ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดเอสยูวีขนาดกลางและมีบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตของเซกเมนต์ในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นของ HR-V ในเจเนอเรชันที่ 1 ที่ครบครันด้วยเอกลักษณ์ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ในทุกมิติ ทั้งด้านดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมล้ำสมัย สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน จนมาถึง เจเนอเรชันที่ 2 ด้วยการมาพร้อมกับความพรีเมียมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งดีไซน์ที่สปอร์ตล้ำสมัยโดดเด่นในทุกมุมมอง เสริมความสปอร์ตขึ้นอีกขั้นกับรุ่น RS ทั้งยังมีเทคโนโลยีระดับพรีเมียม รวมถึงระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING

โดยมีให้เลือกอยู่ถึง 3 รุ่นย่อย ได้แก่ e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท, e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท และ e:HEV E ราคา 979,000 บาท

โดยระบบ e:HEV มากับโหมดการขับขี่ 3 แบบ ซึ่งระบบจะปรับเปลี่ยนโหมดให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด มอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทำให้ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง, โหมด Hybrid Drive Mode ระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง และ โหมด Engine Drive Mode โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่ เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ด้านภายนอกโดดเด่นในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ประณีตในทุกรายละเอียด โดยในรุ่น e:HEV RS เป็นเพียงรุ่นเดียวที่จะได้หลังคากระจกแบบพาโนรามา

กระจังหน้าดึงดูดทุกสายตาด้วยดีไซน์ใหม่โดยในรุ่น e:HEV RS จะเป็นแบบโครเมียมแบบสปอร์ต ส่วนที่มาพร้อมสีเดียวกับตัวรถจะอยู่ในรุ่น e:HEV EL และสีดำเงาในรุ่น e:HEV E ด้านกันชนหน้า-หลังในรุ่น e:HEV RS จะเป็นสีดำแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยโครเมียม ส่วนในรุ่น e:HEV EL จะเป็นสีดำและสีเงิน ส่วนรุ่น e:HEV E จะเป็นสีดำ

ส่วนไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED Light Strip แต่ในรุ่น e:HEV RS จะได้มี SMOKE กับไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

ในส่วนของไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED นั้นจะได้มาแค่ในรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS เท่านั้น ส่วนกระจกมองข้างจะมาพร้อมระบบไฟฟ้า พับเก็บออโต้ พน้อมไฟเลี้ยว จะทีแต่รุ่น e:HEV RS ที่จะมีระบบปรับกระจกมองข้างด้านซ้ายลงออโต้เมื่อถอยหลัง ด้านระบบปัดน้ำฝนในรุ่น e:HEV E เท่านั้นที่จะได้แบบหน่วงเวลา นอกนั้นจะได้แบบอัตโนมัติ

ขณะที่ล้อขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL ส่วนรุ่น e:HEV RS จะเป็นล้อขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารทั้ง 3 รุ่นจะเป็นสีดำ โดยจะได้วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ นอกจากรุ่น e:HEV RS ที่จะพิเศษกว่าด้วยการตกแต่งด้วยด้ายสีแดง โดยบริเวณคอนโซลหน้ามีการใช้เส้นสายแนวนอน พร้อมผิวสัมผัสที่เรียบ มีการจัดวางเลย์เอาต์และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่

สะดวกสบายในทุกการเดินทางทุกที่นั่ง ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลังเฉพาะรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด

แต่จะมีเพียงแค่อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย กับแผ่นกั้นห้องสัมภาระเท่านั้นที่จะมีแต่รุ่น e:HEV RS เท่านั้นที่จะได้ไป

New HR-V e:HEV มีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วยสีขาวแพลทินัม (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย พิเศษสำหรับสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน เฉพาะรุ่น e:HEV RS นอกจากนี้ยังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo โดยมีให้เลือกทั้งไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งแยกชิ้น หรือจะเลือกเป็นแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน

แพ็คเกจชุดแต่งรถที่นิยมใช้ HONDA HR-V E:HEV

1. แพ็คเกจสปอร์ต

  • ชุดแต่งสเกิร์ตหน้า
  • ชุดแต่งสเกิร์ตข้าง
  • ชุดแต่งสเกิร์ตหลัง
  • สปอยเลอร์หลัง
  • ล้อแม็ก
  • ช่วงล่าง
  • ระบบไอเสีย

2. แพ็คเกจออฟโรด

  • ชุดยก
  • กันชนหน้า
  • กันชนหลัง
  • ไฟตัดหมอก
  • ล้อออฟโรด
  • ยางออฟโรด

3. แพ็คเกจลักชัวรี่

  • ชุดแต่งโครเมียม
  • ไฟ LED
  • ชุดแต่งภายใน
  • ล้อแม็ก
  • ช่วงล่าง

4. แพ็คเกจมูจิ

  • ชุดแต่งสเกิร์ตหน้า
  • ชุดแต่งสเกิร์ตข้าง
  • ชุดแต่งสเกิร์ตหลัง
  • สปอยเลอร์หลัง
  • ล้อแม็ก
  • ช่วงล่าง
  • ระบบไอเสีย

5. แพ็คเกจโมดิฟาย

  • ชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์
  • ชุดแต่ง wide body
  • ชุดแต่งช่วงล่างถอดประกอบ
  • ล้อแม็ก
  • เบรก
  • ระบบไอเสีย
 
 
ท่อแต่งแต่ละประเภทเป็นยังไง? จะเลือกใช้แบบไหนดี

ท่อ Catback: ท่อ Catback เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ขับขี่ HR-V ที่ต้องการเพิ่มพลังและเสียงให้กับรถของพวกเขา ท่อ Catback จะแทนที่ท่อไอเสียส่วนท้ายของรถ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงการไหลของไอเสียและเพิ่มกำลังได้ ท่อ Catback ยังสามารถทำให้เสียงไอเสียของรถดังขึ้นได้

ท่อตรง: ท่อตรงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ยอดนิยมสำหรับผู้ขับขี่ HR-V ที่ต้องการเพิ่มพลังและเสียงให้กับรถของพวกเขา ท่อตรงจะแทนที่ท่อไอเสียทั้งหมดของรถ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงการไหลของไอเสียและเพิ่มกำลังได้ ท่อตรงยังสามารถทำให้เสียงไอเสียของรถดังขึ้นได้มาก

ท่อคอมเพทิชัน: ท่อคอมเพทิชันได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด พวกเขามักจะทำจากวัสดุน้ำหนักเบาและมีเส้นผ่านศูนย์กลางท่อขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงการไหลของไอเสียและเพิ่มกำลังได้ ท่อคอมเพทิชันยังสามารถทำให้เสียงไอเสียของรถดังขึ้นได้มาก

 

ท่อแต่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV

1. MagnaFlow: MagnaFlow เป็นหนึ่งในผู้ผลิตท่อแต่งชั้นนำของโลก และท่อของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในท่อที่ดีที่สุดสำหรับ HR-V RU ท่อ MagnaFlow มอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและเสียง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเพิ่มพลังและเสียงให้กับรถของพวกเขาโดยไม่ต้องเสียสละความสะดวกสบาย

2. Borla: Borla เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตท่อแต่งที่มีชื่อเสียง และท่อของพวกเขาก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ HR-V RU ท่อ Borla มอบประสิทธิภาพและเสียงระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับรถของพวกเขา

3. Corsa Performance: Corsa Performance เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องท่อที่ให้ประสิทธิภาพสูง และท่อของพวกเขาก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ HR-V RU ท่อ Corsa Performance มอบการไหลของไอเสียที่เหนือกว่าและเพิ่มกำลัง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากรถของพวกเขา

4. Invidia: Invidia เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ ผู้ขับขี่ HR-V ที่กำลังมองหาท่อที่ให้ทั้งประสิทธิภาพและเสียง ท่อ Invidia มอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างทั้งสองสิ่ง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการอัปเกรดประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเสียสละเสียง

เมื่อเลือกท่อแต่งสำหรับ HR-V RU สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทการขับขี่ งบประมาณ และระดับเสียงที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกท่อที่เหมาะกับความต้องการและสไตล์การขับขี่ของคุณ

 

โช้คอัพยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV

Honda HR-V E:HEV เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม มีตัวเลือกโช้คอัพแต่งมากมายในท้องตลาด แต่ละตัวมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือต้องเลือกโช้คที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของเราด้วยนะครับ

โดยโช้คอัพที่จัดว่าเป็นไอเทมยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV มีดังนี้ครับผม

- TEIN Street Basis: โช้คอัพเหล่านี้มอบความสมดุลที่ดีระหว่างความสบายและการควบคุม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป

- Yokohama G-Sport: โช้คอัพเหล่านี้กระชับกว่า TEIN Street Basis มอบประสิทธิภาพการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจจะแข็งกว่า

- KW Variant 3: โช้คอัพเหล่านี้ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้คุณปรับแต่งการขับขี่ได้ตามต้องการ แต่มีราคาแพงที่สุด

- ST Suspensions Street Performance: โช้คอัพเหล่านี้มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า เหมาะสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต

- Eibach Pro-Kit: โช้คอัพเหล่านี้ลดความสูงของรถลงเล็กน้อย มอบรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและการควบคุมที่ดีขึ้น

 

ล้อแม็กยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV

- Rays Volk Racing TE37 Saga: ล้อเหล่านี้มีดีไซน์สปอร์ตน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไปและการแข่งขัน

- BBS RS: ล้อเหล่านี้มีดีไซน์หรูหรา เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป

- Work Emotion CR: ล้อเหล่านี้มีดีไซน์แบบออฟโรด เหมาะสำหรับการลุยทางออฟโรดและการขับขี่บนถนนทั่วไป

- Enkei RPF1: ล้อเหล่านี้มีดีไซน์น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไปและการแข่งขัน

- Rota Gridlock: ล้อเหล่านี้มีดีไซน์ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป

 

ชุดเบรกยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV มีดังนี้

Brembo: Brembo เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดเบรกชั้นนำของโลก และชุดเบรกของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในชุดเบรกที่ดีที่สุดสำหรับ Honda HR-V E:HEV ชุดเบรก Brembo มอบประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่าและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากระบบเบรกของพวกเขา

Hawk: Hawk เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตชุดเบรกที่มีชื่อเสียง และชุดเบรกของพวกเขาก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV ชุดเบรก Hawk มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยมและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกประสิทธิภาพสูงที่ไม่แตกหักธนาคาร

EBC: EBC เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับ ชุดเบรก Honda HR-V E:HEV ชุดเบรก EBC มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ดีและความทนทานในราคาที่เหมาะสม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกอัปเกรดโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก

Power Stop: Power Stop เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับชุดเบรก Honda HR-V E:HEV ชุดเบรก Power Stop มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ดีและความทนทานในราคาที่เหมาะสม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกอัปเกรดโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก

Rotors: Rotors เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกที่ราคาไม่แพง ชุดเบรก Rotors มอบประสิทธิภาพการเบรกและความทนทานที่พอใช้ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกอัปเกรดโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก

เมื่อเลือกชุดเบรกสำหรับ Honda HR-V E:HEV สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทการขับขี่ งบประมาณ และประสิทธิภาพที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกชุดเบรกที่เหมาะกับความต้องการและสไตล์การขับขี่ของเจ้าของรถด้วยนะครับ

 

ยางยอดนิยมสำหรับ Honda HR-V E:HEV

Continental TrueContact Tire: ยาง Continental TrueContact เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ เจ้าของ HR-V พวกเขาให้การยึดเกาะและประสิทธิภาพที่ดีในทุกสภาพอากาศ ยาง TrueContact ยังทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

Michelin Primacy MXV4 Tire: ยาง Michelin Primacy MXV4 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ยอดนิยมสำหรับเจ้าของ HR-V พวกเขามอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบสงบ และให้การยึดเกาะที่ดีในทุกสภาพอากาศ ยาง Primacy MXV4 ยังทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

ยาง Goodyear Assurance WeatherReady: ยาง Goodyear Assurance WeatherReady เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ ผู้ขับขี่ HR-V ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น พวกเขามอบการยึดเกาะที่ดีในทุกสภาพอากาศ รวมถึงหิมะและน้ำแข็ง ยาง Assurance WeatherReady ยังทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

ยาง Pirelli Cinturato P7 All Season: ยาง Pirelli Cinturato P7 All Season เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ เจ้าของ HR-V ที่ต้องการยางที่ใช้งานได้หลากหลาย พวกเขามอบประสิทธิภาพที่ดีในทุกสภาพอากาศ รวมถึงหิมะและน้ำแข็ง ยาง Cinturato P7 All Season ยังทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

 

 

 

 

 

Visitors: 485,389