BYD DOLPHIN

BYD DOLPHIN

ข้อดี ข้อเสีย BYD Dolphin แต่ละรุ่นย่อยเหมาะกับใคร?

สำหรับ BYD Dolphin ต้องบอกว่ากระแสเขามาแรงมาก โดยเปิดตัวมาพรอมรุ่นย่อยทั้งหมดสองรุ่น Extended Range และ Standard Range เรามาดูกันว่ารถไฟฟ้าคันนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไรและรุ่นย่อยไหนจะเหมาะกับคุณ

ทำความรู้จักกับ BYD Dolphin กันก่อนครับ

BYD Dolphin คือ รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุดจากค่ายยักษ์ใหญ่แดนมังกรอย่าง BYD ที่มีการพัฒนาบนโครงตัวรถแบบ e-Platform 3.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดสำหรับรถไฟฟ้าของ BYD เช่นเดียวกันกับ BYD ATTO 3 รุ่นพี่ของเขาที่ทำตลาดมาก่อนสักระยะหนึ่งในประเทศไทย

ในด้านราคา BYD Dolphin เปิดราคาขายมาได้น่าสนใจและเสียงได้ตอบรับล้นหลามมากในตอนนี้ โดยในรุ่น Standard Range จะมีราคาอยู่ที่ 699,999 บาท และ รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท ด้วยราคาแบบนี้ก็ทำให้มันเป็นที่ถูกใจชาวไทยที่กำลังจะหันมาใช้รถไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากลองเทียบราคาดูดีๆ แล้ว BYD Dolphin มีราคาใกล้เคียงกับรถอีโค่คาร์มาก ดีไซน์สวยวัสดุภายในดีเป็นที่ต้องใจมาก

ความแตกต่างของ BYD Dolphin ทั้งสองรุ่นย่อย

จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของ BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นย่อย คือ พละกำลังของมอเตอร์ และ แบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนว่ารุ่น Extended Range จะทำได้ดีกว่าอยู่แล้วและราคาก็แพงขึ้นด้วย ข้อสังเกตุที่จะแยกสองรุ่นนี้ให้ออกแบบง่ายๆ คือการดูที่สีของตัวรถที่รุ่นท็อปสุดของเขาสีตัวถังและหลังคาจะคนละสีกัน ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะสีเดียวกันทั้งคัน

  • BYD Dolphin Standard Range มอเตอร์แม่เหล็กถาวร 1 ตัว กำลัง 70 kW ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 12.3 วินาที แบตเตอรีลิเธียมไอออน Blade Battery LFP พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 44.9 kWh แรงดันไฟฟ้า 400 V รองรับการชาร์จ AC ชาร์จ 7 kW รองรับการชาร์จ DC ชาร์จ 60 kW ระยะทางวิ่งสูงสุด (NEDC) ทำได้ 410 กม.
  • BYD Dolphin Extended Range มอเตอร์แม่เหล็กถาวร 1 ตัว กำลัง 150 kW ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 7 วินาที แบตเตอรีลิเธียมไอออน Blade Battery LFP พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 60.48 kWh แรงดันไฟฟ้า 400 V รองรับการชาร์จ AC ชาร์จ 7 kW รองรับการชาร์จ DC ชาร์จ 80 kW ระยะทางวิ่งสูงสุด (NEDC) ทำได้ 490 กม.

ถ้าหากลองดูจากรายละเอียดของทั้งสองรุ่นจะเห็นได้ว่ามอเตอร์และแบตเตอรี่ รุ่น Extended Range จะให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 60.48 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังมากถึง 150 kW ให้พละกำลังที่มากกว่าอย่างชัดเจน และเป็นสเป็คเดียวกันกับ BYD ATTO 3 Extended Range ด้วยทั้งที่ตัวรถของ BYD Dolphin นั้นเล็กกว่ามาก

ซึ่งถ้าลองมองในฝั่ง BYD Dolphin รุ่น Standard Range ที่ให้แบตเตอรี่ขนาด 44.9 kWh ตัวแบตเตอรีจะเล็กกว่ารุ่น Extended Range ถึง 25% และที่สำคัญคือมอเตอร์ไฟฟ้าที่รุ่น Extended Range มีกำลังมากกว่าเท่าตัวและแน่นอนว่าก็ต้องขับสนุกมากกว่าเพราะว่าสเป็คเท่าพี่ใหญ่แต่ตัวเล็กกว่าน้ำหนักก็ต้องเบากว่าทำให้การออกตัวและอัตราเร่งย่อมทำได้ดีกว่าแน่นอน

อีกประเด็นที่น่าสนใจมากของ BYD Dolphin รุ่น Extended Range คือขนาดแบตเตอรี่ 60.48 kWh กับราคาจำหน่าย 859,999 บาท ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ขนาดแบตเตอรี่ต่อราคาคุ้มค่าที่สุดในระดับราคาเดียวกัน อีกทั้งการออกแบบทั้งภายนอกและภายในก็ทำออกมาอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมกว่าคู่แข่ง เป็นรถไฟฟ้าที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ

ส่วนในด้านมิติตัวถังและช่วงล่างทั้ง Standard Range และ Extended Range จะมีขนาด ระยะฐานล้อ ระยะห่างจากพื้น พวงมาลัย และ ระบบเบรก ที่เหมือนกันคือ

  • ขนาดตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง 4,290 x 1,770 x 1,570 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
  • ระยะห่างจากพื้น 130 มม.
  • พวงมาลัยเป็นแบบไฟฟ้า
  • ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก

ซึ่งถ้าหากดูภายนอกแล้ว ขนาดของ BYD Dolphin อาจจะพอๆ กับ Honda Jazz หรือ Toyota Yaris แต่เอาเข้าจริงแล้วเมื่อดูใกล้ๆ และได้เข้าไปทดลองขับจะรู้ได้ทันทีว่ามันกว้างและยาวกว่า มิติตัวรถจึงออกมาสวยกว่า ขับดีกว่า และ ภายในกว้างกว่านิดหน่อย

ซึ่งทั้งสองรุ่นย่อยจะมีจุดที่ต่างกันตรงที่ Standard Range จะได้ช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน ช่วงหลังหลังแบบทอร์ชั่นบีม ล้อและยางขนาด 195/60 R16 น้ำหนักรถ 1,506 กก. แต่รุ่น Extended Range จะได้ช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันกับด้านหลังที่เป็นมัลติลิ้งก์ ล้อและยาง 205/50 R17 น้ำหนักรถเปล่า 1,658 กก. ซึ่งแน่นอนว่าความแตกต่างนี้ก็ส่งผลต่อความรู้สึกในการขับขี่อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

BYD Dolphin ขับดีไหม?

แน่นอนว่าด้วยช่วงล่าง พละกำลังของมอเตอร์ และ น้ำหนักตัวที่แตกต่างกันก็ย่อมให้ความรู้สึกในารขับขี่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ สำหรับ BYD Dolphin รุ่น Standard Range ที่มากับช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงกับด้านหลังแบบ Torsion Beam ต้องบอกว่าช่วงล่างรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ค่อนข้างดีมากแม้จะขับบนถนนที่เป็นทางลูกรังก็ตาม

ซื้อ BYD Dolphin รุ่นย่อยไหนดี?

BYD Dolphin ระหว่าง Extended และ Standard ความต่างค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าชอบความเร็วแรงแบบทันใจขับระยะทางได้ไกลสุดๆ ก็ต้องรุ่น Extended มันเป็นรุ่นที่ถ้าไม่มองหน้าปัดก็เผลอตัวอีกทีก็อาจจะโดนกล้องตรวจจับความเร็วเล่นงานเอาได้ เพราะความเร็วขึ้นไวมาก แต่ก็ได้ความนุ่มนวลขับสบายมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นในรุ่นนี้ก็จะเหมาะกับการขับในเมืองและทางไกลด้วย

ส่วนรุ่น Standard ก็ให้กำลังที่ต่อเนื่องเช่นกัน แต่ด้วยพละกำลังของมอเตอร์ที่น้อยกว่ารวมกับช่วงล่างด้านหลังแบบ Torsion Beam ก็ทำให้มันรู้สึกเเข็งมากกว่านิดหน่อย แต่ต้องบอกว่านี่คือการปรับเซ็ทมาให้พอดีสำหรับการขับขี่ในเมืองแบบชิลล์ๆ แอบกระซิบว่าถึงขับทางไกลไม่โหดเท่ารุ่นท็อปแต่ความรู้สึกที่ได้มันแอบมีกลิ่นอายความสปอร์ตมากกว่าในความเร็วสูงแต่ไม่แรงมากนะ

สำหรับในเรื่องของความต่างในรุ่นท็อปนั้นจะมีราคาสูงกว่าแค่ 160,000 บาท เท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ได้เพิ่มมาในรุ่นท็อปก็จะมี

  1. แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า
  2. ขับได้ระยะทางไกลกว่า
  3. พละกำลังมากกว่า
  4. ชาร์จเร็วกว่า
  5. มีหลังคากระจก
  6. ช่วงล่างนุ่มกว่าเยอะเพราะด้านหลังเป็น Multi Link
  7. มีแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย
  8. เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบระบายความร้อนเบาะ
  9. ล้ออัลลอย 17 นิ้ว 5 รู
  10. สามารถเป็นรถคันจบของบ้านได้
  11. การขับขี่คลอบคลุมทุกการใช้งาน
โช้คอัพยอดนิยมสำหรับ BYD Dolphin

1. Profender FITZ:โช้คอัพเหล่านี้มอบความสมดุลที่ดีระหว่างความสบายและการควบคุม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป

2. Tein Street Basis: โช้คอัพเหล่านี้ขับขี่นุ่มนวลกว่าโช้คอัพเดิม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป

3. YOKOHAMA G-Sport: โช้คอัพเหล่านี้กระชับกว่า Tein Street Basis มอบประสิทธิภาพการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจจะแข็งกว่า

4. KW Variant 3: โช้คอัพเหล่านี้ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้คุณปรับแต่งการขับขี่ได้ตามต้องการ แต่มีราคาแพงที่สุด

5. ST Suspensions Street Performance: โช้คอัพเหล่านี้มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า เหมาะสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต

ถึงแม้ว่าความแตกต่างจะไม่มากเท่าไหร่แต่ต้องบอกว่าความรู้สึกในการขับขี่นั้นต่างกันเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ความพิเศษของทั้งสองรุ่นคือภายในนั้นจะถูกออกแบบให้มีความล้ำสมันสูงมากตามสไตล์ของ BYD และแน่นอนว่าการจัดวางตำแหน่งของฟังก์ชันต่างๆ ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายมาก เป็นรถที่ทำให้เราอยากอยู่ภายในรถนานๆ อยากนั่งขับชิลล์ๆ สบายๆ ไปเรื่อยๆ เลยครับ

 

ชุดแต่งรอบคันที่เหมาะกับ BYD DOLPHIN

BYD DOLPHIN เป็นรถแฮทช์แบคไฟฟ้าขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีชุดแต่งรอบคันหลากหลายรุ่นให้เลือกเพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์และประสิทธิภาพของรถ ต่อไปนี้เป็นยี่ห้อชุดแต่งรอบคันยอดนิยมบางส่วนสำหรับ BYD DOLPHIN

1. Rstyle Racing

- Rstyle Racing เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดแต่งรอบคันที่มี่ชื่อเสียงในประเทศไทย ผลิตชุดแต่งสำหรับรถยนต์หลากหลายรุ่น 

- ชุดแต่ง Rstyle Racing สำหรับ BYD DOLPHIN มีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

- ชุดแต่ง Rstyle Racing ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น พลาสติก ABS ไฟเบอร์กลาส และคาร์บอนไฟเบอร์

2. Lumga

- Lumga เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตชุดแต่งรอบคันที่มี่ชื่อเสียงในประเทศไทย

- ชุดแต่ง Lumga สำหรับ BYD DOLPHIN ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสปอร์ตและดุดันให้กับรถ

- ชุดแต่ง Lumga ผลิตจากพลาสติก ABS น้ำหนักเบา

3. First

- First เป็นผู้ผลิตชุดแต่งรอบคันที่มี่ชื่อเสียงในประเทศไทย

- ชุดแต่ง First สำหรับ BYD DOLPHIN ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความหรูหราและสง่างามให้กับรถ

- ชุดแต่ง First ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น พลาสติก ABS โครเมียม

ท่อแต่งสำหรับ BYD DOLPHIN มียี่ห้ออะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร

ต้องบอกว่า BYD DOLPHIN เป็นรถแฮทช์แบคไฟฟ้าขนาดเล็กที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2565 ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าท่อแต่งยี่ห้อใดที่รองรับ DOLPHIN โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ท่อแต่งทั่วไปบางยี่ห้ออาจใช้งานได้กับ DOLPHIN แต่ท่อเหล่านี้อาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับรุ่น ขนาด และประเภทของท่อ

และข้อมูลด้านล่างนี้คือยี่ห้อท่อแต่งที่อาจใช้งานได้กับ BYD DOLPHIN 

1. MagnaFlow: MagnaFlow เป็นหนึ่งในผู้ผลิตท่อแต่งที่มี่ชื่อเสียงในอเมริกา ผลิตท่อแต่งหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

2. Borla: Borla เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตท่อแต่งที่มี่ชื่อเสียงในอเมริกา ผลิตท่อแต่งหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

3. Corsa Performance: Corsa Performance เป็นผู้ผลิตท่อแต่งที่มี่ชื่อเสียงในอเมริกา ผลิตท่อแต่งหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

4. Invidia: Invidia เป็นผู้ผลิตท่อแต่งที่มี่ชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผลิตท่อแต่งหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

5. HKS: HKS เป็นผู้ผลิตท่อแต่งที่มี่ชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผลิตท่อแต่งหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

ประเภทของท่อแต่ง

ท่อ Catback: ท่อ Catback เปลี่ยนท่อไอเสียจากแคทตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ไปยังปลายท่อ

ท่อตรง: ท่อตรงแทนที่ท่อไอเสียทั้งหมดตั้งแต่ท่อร่วมไอเสียไปยังปลายท่อ

ท่อ Competition: ท่อ Competition ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังของเครื่องยนต์

ความแตกต่างของท่อแต่ง

เสียง: ท่อแต่งแต่ละประเภทมีเสียงที่แตกต่างกัน ท่อ Catback มักจะมีเสียงดังน้อยที่สุด ท่อตรงมักจะมีเสียงดังที่สุด

ประสิทธิภาพ: ท่อ Competition มักจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด ท่อ Catback มักจะมีประสิทธิภาพน้อยที่สุด

ราคา: ท่อแต่งมีราคาตั้งแต่ไม่กี่พันบาทถึงหลายหมื่นบาท ท่อ Catback มักจะมีราคาถูกที่สุด ท่อ Competition มักจะมีราคาแพงที่สุด

 

การเลือกใช้แม็กและยางสำหรับ BYD DOLPHIN

แม็กที่นิยมใช้สำหรับ BYD DOLPHIN

BBS: BBS เป็นผู้ผลิตแม็กที่มี่ชื่อเสียงในเยอรมนี ผลิตแม็กหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

Vossen: Vossen เป็นผู้ผลิตแม็กที่มี่ชื่อเสียงในอเมริกา ผลิตแม็กหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

Work: Work เป็นผู้ผลิตแม็กที่มี่ชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผลิตแม็กหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

Rays: Rays เป็นผู้ผลิตแม็กที่มี่ชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผลิตแม็กหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

Enkei: Enkei เป็นผู้ผลิตแม็กที่มี่ชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผลิตแม็กหลากหลายรุ่นสำหรับรถยนต์หลายประเภท

ยางที่นิยมใช้สำหรับ BYD DOLPHIN

1. Michelin Primacy 4: ยาง Michelin Primacy 4 เป็นยางสมรรถนะสูงที่มอบการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากยาง

2. Continental ContiSportContact 5: ยาง Continental ContiSportContact 5 เป็นอีกหนึ่งยางสมรรถนะสูงที่มอบการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากยาง

3. Pirelli Cinturato P7: ยาง Pirelli Cinturato P7 เป็นยางประหยัดน้ำมันที่มอบการยึดเกาะและการควบคุมที่ดี เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประหยัดน้ำมัน

4. Yokohama BluEarth AE-1: ยาง Yokohama BluEarth AE-1 เป็นยางสำหรับทุกสภาพอากาศที่มอบการยึดเกาะและการควบคุมที่ดี เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการยางที่ใช้งานได้หลากหลาย

5. Goodyear EfficientGrip SUV: ยาง Goodyear EfficientGrip SUV เป็นยางประหยัดน้ำมันที่มอบการยึดเกาะและการควบคุมที่ดี เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประหยัดน้ำมัน

 

ยี่ห้อชุดเบรกที่อาจใช้งานได้กับ BYD DOLPHIN

1. Brembo: Brembo เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดเบรกชั้นนำของโลก และชุดเบรกของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในชุดเบรกที่ดีที่สุดสำหรับ BYD DOLPHIN ชุดเบรก Brembo มอบประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่าและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากระบบเบรกของพวกเขา

2. Hawk Performance: Hawk Performance เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตชุดเบรกที่มีชื่อเสียง และชุดเบรกของพวกเขาก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ BYD DOLPHIN ชุดเบรก Hawk Performance มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยมและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกประสิทธิภาพสูงที่ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก

3. EBC Brakes: EBC Brakes เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับชุดเบรก Atto 3 ชุดเบรก EBC Brakes มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ดีและความทนทานในราคาที่เหมาะสม เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาชุดเบรกอัปเกรดโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก

4. StopTech: StopTech เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ BYD DOLPHIN ที่ต้องการชุดเบรกประสิทธิภาพสูง ชุดเบรก StopTech มอบประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่าและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากระบบเบรกของพวกเขา

5. Wilwood: Wilwood เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ BYD DOLPHIN ที่ต้องการชุดเบรกประสิทธิภาพสูง ชุดเบรก Wilwood มอบประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่าและความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากระบบเบรกของพวกเขา

การดูแลรักษาชุดเบรก

- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกเป็นประจำ และเติมน้ำมันเบรกเมื่อจำเป็น

- ตรวจสอบผ้าเบรกเป็นประจำ และเปลี่ยนผ้าเบรกเมื่อสึกหรอ

- ทำความสะอาดโรเตอร์เบรกเป็นประจำ

- ตรวจสอบระบบเบรกของคุณเป็นประจำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

 

TEIN ENDURAPRO

TEIN ENDURAPROPLUS+

PROFENDER

H DRIVE S SPEC

G FORGED

Visitors: 485,283