BENZ W205

Mercedes-Benz W205

Mercedes-Benz W205  เป็นซีดานคลาส C ที่ผลิตโดย Daimler AG ระหว่างปี 2014 ถึง 2021  มาแทนที่รุ่น W204 และถูกแทนที่ด้วยรุ่น W206 ออกแบบโดย Robert Lejeune เน้นความหรูหรา ทันสมัย โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายและโคมไฟหน้า LED ดีไซน์ภายในเน้นความล้ำสมัย กว้างขวาง มาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง เทคโนโลยีล้ำสมัย

Mercedes-Benz C 220 d AMG Dynamic (W205) รุ่นประกอบในประเทศ ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดของ Mercedes - Benz กับการเดินทางมาถึงปลายโมเดล ก่อนเปลี่ยนโฉมอีกครั้ง แต่ความน่าสนใจของรุ่นปัจจุบันคือความพิเศษของราคากับส่วนลดต่างๆ และออฟชั่นที่ใส่มาแบบจัดเต็มนั่นเอง จุดเด่นสำหรับรุ่นปัจจุบันมีอะไรบ้าง

ภายนอก C 220 d AMG Dynamic

หน้าตาภายนอกยังคงความหรูหราพร้อมความสปอร์ตที่ได้รับจาก ชุดแต่ง AMG กันแต่กระจังหน้าแบบ Diamond Grill สวยงาม กันชนหน้าและหลัง สเกิร์ตข้างแบบสปอร์ต AMG Bodystyling รอบคัน พร้อมเซนเซอร์ด้านหน้า 6 จุด เพื่อความปลอดภัย โดดเด่นด้วย ไฟหน้าแบบ Multi beam LED ที่มีความล้ำสมัยทำงานแบบอัตโนมัติ โดยภายในจะมีหลอด LED เล็กๆอยู่ 84 ดวง ซึ่งควบคุมการทำงานแยกกันได้อย่างอิสระ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ทำงานโดยลดแสงรบกวนสายตาผู้ขับขี่ร่วมทาง เมื่อถนนโล่ง ไฟสูง ULTRA RANGE จะเพิ่มระยะส่องแสงได้ไกลถึง 650 เมตร มาพร้อมชุดไฟ Daytime Running Light แบบ LED รวมถึง หลังคา Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ล้ออัลลอย AMG Multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ, ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีกุญแจแบบ KEYLESS-GO ทั้งสี่บานอีกด้วยครับ

ซึ่ง ภายใน C 220 d AMG Dynamic C 220 d AMG Dynamic ภายในเน้นโทนสีดำ จุดเด่นคือหน้าจอระบบ All-Digital instrument display มีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว และยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Progressive และ Sport พร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายๆโดยผ่าน ระบบ Touch pad หรือตำแหน่งพวงมาลัยก็ได้เช่นกัน พร้อมเชื่อมต่อการทำงาน ระบบ Apple CarPlay & Android Auto และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth

พวงมาลัยทรงสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ควบคุมหน้าจอกลางและหน้าจอผู้ขับขี่ ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลังสามารถพับได้

เครื่องยนต์ C 220 d AMG Dynamic

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,950 ซีซี เทอร์โบ รหัส OM654 มีกำลัง 143 กิโลวัตต์ หรือ 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1-4.8 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
ค่าการปล่อย CO2 136-126 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร
ตัวเลขสมรรถนะ เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีกับ C 220 d คันนี้คือเบาะนั่งแถวหลังซึ่งโดยปกติรถขนาดเล็กจะไม่ให้ม่านด้านหลังมาแต่ C-Class คันนี้ให้มา ถึง 3 ด้าน ซึ่งเหมาะมากกับประเทศไทยที่มีอาการร้อน และที่สำคัญสำหรับ สาวๆ อาจจะต้องใช้รถคันนี้ในการเก็บของหรือเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวภายในรถก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัยขึ้น เพิ่มความสะดวกกับการที่เบาะหลังสามารถพับได้สามารถหยิบของได้ด้วยโดยไม่ต้องลงจากรถ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น

ในเรื่องการขับขี่เครื่องยนต์ ดีเซล ที่มีชื่อเสียงที่ดีในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน ก็ยังคงเหมือนเดิมแน่นอนว่าอัตราเร่งแซงต่างๆนั้นหายห่วงเครื่องยนต์ให้การตอบสนองในทุกย่านความเร็ว กระฉับกระเฉงกดเป็นมาด้วยแรงบิดขนาด 400 นิวตันเมตร มาในรอบต่ำเพียง 1,400 รอบ ทำให้กดคันเร่งเบาๆรถก็ให้กำลังสูงสุดได้แล้ว ทำให้คันเร่งใช้น้อยลงส่งผลในเรื่องการประหยัดน้ำมันอีกด้วย เพราะถ้าคุณขับขี่แบบไปเรื่อยๆในความเร็ว 100 km รอบเครื่องอยู่ที่ 1,200 รอบเท่านั้นซึ่งต่ำมาก โดยการวิ่งทดสอบทั้งหมดในการขับขี่ทั้งในเมืองนอกเมือง รถติด กดเพื่อทำความเร็ว หน้าจอแสดงผลอัตราการประหยัดที่ 6.1L/100km ประหยัดมากๆ

ในส่วนที่อาจจะต้องเป็นกังวลสำหรับ C-Class ช่วงล่างของรถ AMG Dynamic จะได้สปริงที่เตี้ยลงกว่ารุ่นอื่น 10 มิลลิเมตร อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นพร้อมทั้งการเลือกใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางแก้มเตี้ย ได้ในเรื่องความสวยงามแต่ในการใช้ชีวิตในเมืองหลวงนั้นอาจจะเจอสภาพถนนที่แย่ๆส่งผลกับแรงสะเทือนถึงห้องโดยสารได้มาก และเวลาวิ่งออกต่างจังหวัดต้องเพิ่มความระมัดระวังกับสภาพถนนที่ไม่ดีอาจจะทำให้ยางแตกหรือบวมได้ แม้ว่าจะเป็นยาง Run-flat ก็ตาม

ระบบเครื่องยนต์และช่วงล่างของ Mercedes-Benz W205

เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย: W205 มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย อีกทั้ง W205 ได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงจากหน่วยงานความปลอดภัยต่างๆ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยมาตรฐาน อีกด้วย โดยระบบความปลอดภัยสามารถดูได้จากข้อความด้านล่างนี้เลยครับ

• โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program - ESP)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS)
• ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
• ระบบช่วยเบรกแบบแอ็กทีฟ ABA (Active Brake Assist system)
• ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
• ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
• ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
• เซนเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
• ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist)
• ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC)
• กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera)

การเปลี่ยนโช้ค และการเลือกใช้โช้คสำหรับ Mercedes-Benz W205

โช้คอัพเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบช่วงล่างรถยนต์ ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวถัง ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและควบคุมได้ดี โช้คอัพมีอายุการใช้งานจำกัด โดยทั่วไปแล้ว ควรเปลี่ยนโช้คอัพทุก 80,000 - 100,000 กม. หรือทุก 5 ปี

สัญญาณว่าถึงเวลาเปลี่ยนโช้คอัพ

• การขับขี่กระแทกกระทั้นหรือสั่นสะเทือน
• การบังคับควบคุมรถไม่ดี
• ยางสึกหรอเร็ว
• รั่วซึมของน้ำมันโช้ค

มีโช้คอัพหลายประเภทให้เลือกสำหรับ Mercedes-Benz W205 ประเภทที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่

โช้คอัพมาตรฐาน: โช้คอัพเหล่านี้เหมือนกับโช้คอัพที่มาพร้อมกับรถจากโรงงาน เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

โช้คอัพสปอร์ต: โช้คอัพเหล่านี้ทำให้การขับขี่กระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น

โช้คอัพปรับระดับได้: โช้คอัพเหล่านี้สามารถปรับความแข็งของโช้คอัพได้ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความหลากหลายในการใช้งาน

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกโช้ค

สไตล์การขับขี่: คุณต้องการโช้คอัพที่นุ่มนวลสำหรับการขับขี่ที่สะดวกสบาย หรือโช้คอัพที่กระชับสำหรับการขับขี่ที่สปอร์ต

งบประมาณ: โช้คอัพมีราคาตั้งแต่ราคาไม่แพงไปจนถึงราคาแพง

สภาพถนน: คุณขับขี่บนถนนเรียบหรือถนนขรุขระ

แบรนด์โช้คอัพยอดนิยมสำหรับ Mercedes-Benz W205

Bilstein: โช้คอัพ Bilstein ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพ

Koni: โช้คอัพ Koni นำเสนอโช้คอัพหลากหลายประเภทสำหรับทุกสไตล์การขับขี่

Eibach: โช้คอัพ Eibach ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม

ยาง และแม้กยอดฮิตที่นิยมใช้สำหรับ BENZ W205

แบรนด์ยางที่แนะนำ

Michelin Pilot Sport 4S:ยางเหล่านี้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการยางประสิทธิภาพสูง พวกเขาให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและแห้ง และยังทนทาน

Continental ExtremeContact Sport V2: ยางเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการยางประสิทธิภาพสูงที่มีราคาไม่แพง พวกเขาให้การยึดเกาะที่ดีทั้งบนถนนเปียกและแห้ง และยังทนทาน

Pirelli P Zero:ยางเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการยางที่มีประสิทธิภาพสูงและรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว พวกเขาให้การยึดเกาะที่ดีทั้งบนถนนเปียกและแห้ง และยังดูดีบนรถอีกด้วย

แบรนด์แม็กที่แนะนำ

AMG Styling Multi-Spoke Wheels: ล้อเหล่านี้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการรูปลักษณ์ AMG แบบดั้งเดิม พวกเขามีสไตล์ที่สง่างามและโฉบเฉี่ยว และมาในขนาดต่างๆ

BBS SR:ล้อเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการล้อน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพสูง พวกเขาทำจากวัสดุคุณภาพสูงและมีให้เลือกหลายสี

HRE FF15: ล้อเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการล้อที่มีเอกลักษณ์และสะดุดตา พวกเขามีการออกแบบที่ไม่เหมือนใครและมาในหลากหลายสี

ชุดเบรกที่ดีที่สุดสำหรับ Benz W205 ในปี 2024

การเลือกซื้อ เลือกใช้งานชุดเบรกนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สไตล์การขับขี่ งบประมาณ และความต้องการเฉพาะของเจ้าของรถ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลและคำแนะนำที่มีเราจะเลือกแนะนำ ชุดเบรก 3 รุ่น ต่อไปนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม และมีประสิทธิภาพสูงสำหรับ Benz W205 ในปี 2024

1. Brembo GT60

- เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

- มอบพลังหยุดที่เหนือชั้น ควบคุมการเบรกที่แม่นยำ และความทนทานสูง

- มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยจากสนามแข่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน

- มีหลายรุ่นย่อยให้เลือก เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ

2. StopTech ST60

- ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการชุดเบรกประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

- มอบพลังหยุดที่ยอดเยี่ยม การควบคุมที่ดี และติดตั้งง่าย

- ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

- มีหลายรุ่นย่อยให้เลือก เหมาะกับทั้งการใช้งานทั่วไปและบนสนามแข่ง

3. Akebono Performance

- เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการชุดเบรกที่เงียบ นุ่มนวล และควบคุมง่าย

- มอบพลังหยุดที่เพียงพอ ควบคุมการเบรกได้อย่างแม่นยำ และทำงานเงียบเชียบ

- ผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อน ช่วยลดการสึกหรอ

- เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ

ขนาดโรเตอร์: โรเตอร์ขนาดใหญ่ generally offer improved braking performance, but may not be compatible with all wheels.

จำนวนคาลิปเปอร์: คาลิปเปอร์หลายตัว (เช่น 6-pot calipers) มักให้พลังหยุดที่มากกว่า แต่มีราคาแพงกว่า

วัสดุแผ่นเบรก: วัสดุที่แตกต่างกัน (เช่น เซรามิก คาร์บอนไฟเบอร์) นำเสนอประสิทธิภาพและความรู้สึกในการเบรกที่แตกต่างกัน

การใช้งาน: พิจารณาว่าคุณจะใช้รถอย่างไร (เช่น ขับขี่ในเมือง ขับขี่บนทางหลวง ขับขี่บนสนามแข่ง)

ท่อแต่งดีที่สุดสำหรับ Benz W205 ในปี 2024

1. Remus Downpipe

- เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และเสียงท่อที่ไพเราะ

- ช่วยเพิ่มแรงม้า แรงบิด และการไหลเวียนของอากาศ

- ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

- มีหลายรุ่นย่อยให้เลือก เหมาะกับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล

2. Armytrix Catback Exhaust System

- ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการท่อแต่งที่มีสไตล์และเสียงท่อที่ดุดัน

- มอบเสียงท่อที่ทรงพลัง เร้าใจ ปรับแต่งได้

- ผลิตจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง ทนทานต่อความร้อน

- มีหลายรุ่นย่อยให้เลือก เหมาะกับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล

3. AWE Tuning Track Edition Exhaust System

- เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการท่อแต่งที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด

- ช่วยเพิ่มแรงม้า แรงบิด และการไหลเวียนของอากาศอย่างมาก

- ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบา ทนทานต่อความร้อนสูง

- ออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนสนามแข่ง แต่สามารถใช้งานบนถนนได้

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ

ประเภทท่อแต่ง: ท่อแต่งมีหลายประเภท เช่น Downpipe, Catback, Axle-back แต่ละประเภทมีผลต่อประสิทธิภาพและเสียงท่อที่แตกต่างกัน

วัสดุ: ท่อแต่งผลิตจากวัสดุหลายประเภท เช่น สแตนเลส ไทเทเนียม วัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน

เสียงท่อ: เลือกท่อแต่งที่มีเสียงท่อที่คุณชอบ เสียงท่อมีหลายแบบ เช่น เสียงท่อที่เงียบ เสียงท่อที่ดัง เสียงท่อที่ดุดัน

การรับประกัน: เลือกท่อแต่งที่มีการรับประกันจากผู้ผลิต