TOYOTA ALPHARD 30

Toyota Alphard เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (MPV) ระดับหรูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา กว้างขวาง สะดวกสบาย และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย Toyota Alphard เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2002 โดยเป็นรถยนต์ MPV ระดับหรูรุ่นแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นและประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย Toyota Alphard เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2005 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการรถยนต์ที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย และปลอดภัย

Alphard แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง?

หลายคนสงสัยว่ารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่อย่าง Toyota Alphard มีทั้งหมดกี่รุ่น แล้วแต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไงบ้าง? วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ Toyota Alphard กันครับ

โตโยต้า อัลพาร์ด ในปัจจุบันผลิตออกมาทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Alphard X, Alphard GF, Alphard SRC และ Alphard SC ซึ่งทั้ง 4 รุ่นนี้มีจุดร่วมเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 2,493 cc. พละกำลัง 152 แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 5,700 รอบ/นาที กำลังรวมทั้งระบบสูงสุดอยู่ที่ 199 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/วินาที อัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 18.4 กม./ลิตร ใช้ระบบส่งกำลัง CVT 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E4 (Full-Time Electrical 4WD system) ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 65 ลิตร น้ำหนักรถรุ่นนี้โดยรวมอยู่ที่ 2,200 กก.

ดิสก์เบรกแบบมีครีมระบายความร้อนทั้งเบรกหน้า-หลัง ระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง เป็นแม็คฟอร์สันสตรัท-ดับเบิลวิชโบน และคอยล์สปริง ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็คแอนด์พีเนียน ล้ออัลลอย 16 ยาง 215/65 มีรัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 5.6 ม.

ภายนอกรถติดตั้งสปอย์เลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED อีกทั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED, ไฟหน้า LED 3 ดวง และ LED cornering lamp-DRL แถมด้วยชุดกันชน Aero Part รอบคัน เปิดประทุนด้วยหลังคามูนรูฟ 2 ตอน ส่วนกระจกบังลมหน้าและกระจกประตูคู่หน้าแบบ Super-UV cut

ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นและหัวเกียร์หุ้มหนังสลับลายไม้ ตัวเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 4 ทิศทาง ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารมีถึง 6 จุด ส่วนไฟ Ambient ล้อมรอบเพดานห้องโดยสาร ระบบเครื่องปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ 3 โซน และระบบฟอกอากาศ Nanoe system

ดีไซน์ Toyota Alphard รุ่นใหม่ล่าสุดมีรูปลักษณ์ที่หรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ V-Shape ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ และไฟท้าย LED แบบ L-Shape

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ ปรับไฟฟ้าทุกตำแหน่ง มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา ระบบความบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง JBL 17 ลำโพง

เครื่องยนต์ Toyota Alphard รุ่นมาตรฐานและรุ่น Luxury ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร 190 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน

รุ่นพิเศษ Alphard 3.5 HEV Executive Lounge ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด 3.5 ลิตร 296 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้สมรรถนะที่แรงและนุ่มนวล

ความแตกต่างของ Toyota Alphard แต่ละรุ่น แตกต่างกันตรงไหนบ้าง เดี๋ยวเรามาดูกันเลยครับ

1. กระจังหน้า-ท้ายรถ

จุดเด่นของอัลพาร์ดอยู่ที่กระจังหน้า-ท้ายรถซึ่งมีรูปลักษณ์เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนสังเกตได้จากดีไซน์ หากดีไซน์ดูเรียบหรูจะเป็นรุ่น Alphard X และ Alphard GF ส่วนดีไซน์ออกแนวสปอร์ตหน่อยจะเป็นรุ่น Alphard SRC และ Alphard SC

2. สัญลักษณ์แบรนด์

หากสัญลักษณ์ Toyota เป็นสีฟ้า แสดงว่าเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด จะเป็นรุ่น Alphard X,  Alphard GF และ Alphard SRC

ส่วนสัญลักษณ์เป็นสีดำ แสดงว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นรุ่น Alphard SC

3. ขนาดล้อแม็ก

- ล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว ลายเรียบ จะเป็นรุ่น Alphard X

- ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ลายเรียบหรูหรา จะเป็นรุ่น Alphard GF

- ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ตัว Top Hybrid ลายจะออกแนวสปอร์ตเพื่อให้รับกับกระจังหน้ารถ จะเป็นรุ่น Alphard SRC

- ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ลายแนวสปอร์ต จะเป็นรุ่น Alphard SC

และนี่ก็คือความเหมือนและแตกต่างของอัลพาร์ดทั้ง 4 รุ่นที่เราสรุปมาให้ท่านเลือกประกอบการตัดสินใจซื้ออัลพาร์ดรุ่นที่เหมาะกับคุณมากที่สุด สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจเป็นเจ้าของอัลพาร์ดสักคัน สามารถติดต่อสอบถามกับทางเรา Teddy Auto Sale ได้ตลอด 24 ชม. หรือถ้าท่านสนใจรถนำเข้าแบรนด์อื่นทางเราก็มีพร้อมให้ท่านเลือกมากมาย รวมถึงมีศูนย์บริการถึง 4 สาขา เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

ระบบความปลอดภัยเป็นยังไง?

Toyota Alphard ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW ระบบเตือนการชนท้ายขณะถอยหลัง RCTA และกล้องมองรอบทิศทาง

นอกจากนี้ Toyota Alphard ยังมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่เรียกว่า Toyota Safety Sense (TSS) ประกอบด้วยระบบต่างๆ เช่น ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (PCS) ระบบควบคุมความเร็วขณะเข้าโค้ง (ACC) ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามสภาพถนน (LDA) ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)

ราคา

Toyota Alphard รุ่นมาตรฐาน ราคาเริ่มต้นที่ 4,129,000 บาท

Toyota Alphard รุ่น Luxury ราคาเริ่มต้นที่ 4,499,000 บาท

Toyota Alphard 3.5 HEV Executive Lounge ราคาเริ่มต้นที่ 4,899,000 บาท

ทำไมใครๆ ถึงได้ชอบ Toyota Alphard ?

1. ดีไซน์หรู ดูมีคลาส

หาดพูดถึงอัลพาร์ดแล้วใครหลายคนจะนึกถึงดีไซน์ภายในห้องผู้โดยสารที่หรูหรา ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหนังแบบ Perforated ให้ความรู้สึกสบายขณะนั่งเดินทางทั้งใกล้-ไกล สามารถปรับเบาะได้ 4 ทิศทาง พร้อมที่รองขาและเบาะนั่งแบบ Seat Ventilator และ Heater นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างระบบเครื่องเสียงภายในรถที่รองรับทั้งระบบ Android และ IOS แบบหน้าจอสัมผัส มาพร้อมแผนที่นำทาง และกล้องมองหลัง 360 แบบ 3D HD และอื่นๆ อีกมากที่ช่วยอำนวยความสะดวกราวกับมีบ้านเคลื่อนที่เลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่นิยมของเหล่าผู้โดยสารระดับผู้บริหารที่มีกำลังจ่ายในการซื้อรถคันนี้

2. เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งใน และนอกเมือง

Toyota Alphard ถูกออกแบบมาสำหรับใช้เดินทางใก้ล-ไกล ด้วยพวงมาลัยที่ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอสัมผัส MID ขนาด 9 นิ้ว มาพร้อมระบบนำทาง Navigator ที่ช่วยค้นหาที่หมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ตัวรถยังมีความคล่องตัวสูงเนื่องจากติดตั้งชุดพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ESP บนชุดบังคับทิศทางแบบ Rack pinion ช่วยให้มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดอยู่ที่ 5.6 เมตร จึงหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางในที่แคบได้ดี เหมาะกับการใช้งานในเมืองมากๆ ส่วนระบบเบรกมือไฟฟ้า (Brake Hold) ช่วยเหยียบเบรกค้างเอาไว้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะเลี้ยวในที่แคบ หรือการจราจรหนาแน่นได้ดีโดยจะทำงานควบคู่กับระบบ Toyota Safety Sense ด้วย

3. ประหยัดพลังงาน

เนื่องจากตัวรถใช้เครื่องยนต์ไฮบริด จึงถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดพลังงานขณะขับขี่ในเมือง และมีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11-15 กม./ลิตร แถมประหยัดน้ำมันได้ดีถึง 10-50% ด้วยพลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า อีกทั้งยังลดการใช้พลังงานและนำพลังงานทางเลือกมาใช้ ซึ่งลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจึงทำให้มลพิษในอากาศน้อยลง หากเครื่องยนต์หยุดทำงานเนื่องจากสภาพการจราจรติดขัดหรือจอดรอไฟแดง ระบบไฮบริดจะไม่ปล่อยไอเสียสู่อากาศ ซึ่งอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของอัลพาร์ดน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรทั่วไป ถึง 55 กรัม/กม.

4. อายุการใช้งานนานกว่ารถทั่วไป

อายุการใช้งานของอัลฟาร์ดโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 7-10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณด้วยว่าใช้งานหนักแค่ไหนก็ตาม มาพร้อมการรับประกันคุณภาพสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แต่ทั้งนี้หากเกิดสัญญาณเตือนภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องดังแหลมๆ ยาวๆ หรือสตาร์ทติดยาก ควรรีบพาไปซ่อมโดยด่วนเพื่อถนอมการใช้งานของรถให้นานยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจเป็นเจ้าของอัลพาร์ดสักคัน สามารถติดต่อสอบถามกับทางเรา Teddy Auto Sale ได้ตลอด 24 ชม. หรือถ้าท่านสนใจรถนำเข้าแบรนด์อื่นทางเราก็มีพร้อมให้ท่านเลือกมากมาย รวมถึงมีศูนย์บริการถึง 4 สาขา เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

เบรก Alphard

1. ชุดแต่ง Modellista:

- ชุดแต่ง Modellista นำเสนอโดย Toyota Genuine Accessories ออกแบบมาเพื่อ Alphard 30 โดยเฉพาะ เน้นความหรูหรา ประกอบด้วยกันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และท่อไอเสียปลายคู่

- ท่อไอเสีย Modellista ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของไอเสีย มอบเสียงที่ทุ้มต่ำ แต่คงความสุภาพ

2. ชุดแต่ง Wald Alphard

- ชุดแต่ง Wald Alphard เน้นความสปอร์ต ประกอบด้วยกันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และท่อไอเสียปลายสี่ท่อ

- ท่อไอเสีย Wald Alphard ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของไอเสีย มอบเสียงที่ดังก้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความดุดันให้กับ Alphard 30

3. ชุดแต่ง 3D Design Alphard

- ชุดแต่ง 3D Design Alphard เน้นความเรียบหรู ประกอบด้วยกันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และท่อไอเสียปลายคู่

- ท่อไอเสีย 3D Design Alphard ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของไอเสีย มอบเสียงที่ทุ้มต่ำ แต่คงความสุภาพ

4. ชุดแต่ง Rowen Alphard

- ชุดแต่ง Rowen Alphard เน้นความสปอร์ต ประกอบด้วยกันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และท่อไอเสียปลายสี่ท่อ

- ท่อไอเสีย Rowen Alphard ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของไอเสีย มอบเสียงที่ดังก้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความดุดันให้กับ Alphard 30

แม็กและยางที่นิยมใช้งานกันมากที่สุดสำหรับ TOYOTA ALPHARD 30